SolarEdge ยกทัพนวัตกรรมพลังงานอัจฉริยะร่วมโชว์ใน ASIA Sustainable Energy Week 2025 รับดีมานด์พลังงานแสงอาทิตย์ไทยเติบโต

SolarEdge ผู้นำด้านโซลูชั่นพลังงานอัจฉริยะระดับโลก เปิดตัวผลิตภัณฑ์พลังงานแสงอาทิตย์แบบครบวงจร ในงาน ASIA Sustainable Energy Week 2025 ซึ่งประกอบด้วย Power Optimizer S1500 อุปกรณ์เพิ่มประสิทธิภาพในการผลิตไฟฟ้า รุ่น S1500, Commercial Storage System (CSS-OD) โซลูชั่นแบตเตอรี่สำหรับโรงงานขนาดเล็กและกลางและ Four-layer Cybersecurity Protection ระบบป้องกันความปลอดภัยทางไซเบอร์ถึง 4 ชั้น พร้อมรองรับการเติบโตอย่างรวดเร็วของตลาดโซล่าร์เซลล์ในไทย โดยมียอดติดตั้งทะลุระดับกิกะวัตต์ต่อปี

นายเอนอร์ อัลเตอร์ (Einor Alter) ผู้จัดการทั่วไปประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และอิสราเอลของ SolarEdge เปิดเผยว่า “ตลาดโซล่าร์เซลล์ไทยมีแนวโน้มเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพราะการใช้โซล่าร์เซลล์ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าและมีศักยภาพ ทั้งในเรื่องการประหยัดค่าไฟฟ้า และความคุ้มทุนทั้งในภาคที่อยู่อาศัยและธุรกิจ ยิ่งในสถานการณ์ทางเศรษฐกิจที่เปลี่ยนแปลงไป การติดตั้งระบบโซล่าร์เซลล์ของ SolarEdge จึงให้ผลตอบแทนที่สูงขึ้นและปลอดภัย ทำให้การลงทุนด้านระบบพลังงานแสงอาทิตย์เป็นเรื่องสมเหตุสมผลทางการเงิน”

อัลเตอร์ยังได้กล่าวถึงการพัฒนาในอุตสาหกรรมพลังงานแสงอาทิตย์ของไทยว่า “ในช่วงหลายปีมานี้ การเปลี่ยนแปลงในประเทศไทยเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยการติดตั้งระบบโซล่าร์เซลล์ในตลาดที่อยู่อาศัยขยายตัวอย่างมาก ในขณะที่ภาคธุรกิจและอุตสาหกรรมเติบโตก็เติบโตอย่างมีนัยสำคัญ ส่วนโครงการสาธารณูปโภคขนาดใหญ่มีจำนวนเพิ่มขึ้นมาก รวมถึงโครงการรับซื้อไฟฟ้าจากภาครัฐ และโอกาสในการเติบโตของการติดตั้งระบบโซลาร์เซลล์แบบลอยน้ำ”

SolarEdge จึงได้นำเสนอผลิตภัณฑ์หลายรายการที่ออกแบบมาเพื่อรองรับอุตสาหกรรมพลังงานแสงอาทิตย์และความต้องการของตลาดที่ขยายตัวในไทยดังนี้:

Power Optimizer S1500อุปกรณ์เพิ่มประสิทธิภาพในการผลิตไฟฟ้ารุ่นล่าสุดที่ให้ประสิทธิภาพถึง 99.5%ด้วยความสามารถในการเก็บพลังงานที่สูงขึ้น รองรับแผงพลังงานสูงถึง 750W รวมถึงรูปแบบ Bifacial และ G12 อุปกรณ์เพิ่มประสิทธิภาพในการผลิตรุ่น S1500ถูกออกแบบมาโดยเฉพาะสำหรับตลาดในประเทศไทยที่มีความต้องการแผงโซลาร์ขนาดใหญ่ ช่วยเพิ่มการผลิตพลังงานสูงสุดด้วยเทคโนโลยี Maximum Power Point Tracking (MPPT) ขั้นสูง

SolarEdge ONE for C&I ซอฟต์แวร์การเพิ่มประสิทธิภาพพลังงานบนคลาวด์สำหรับภาคธุรกิจและอุตสาหกรรม ซึ่งเปิดให้ทดลองใช้งานเชิงพาณิชย์เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ซอฟต์แวร์มีระบบการมอนิเตอร์ขั้นสูง ดูแลการดำเนินงานและการบำรุงรักษา และการบริหารจัดการไซต์งาน เพื่อเพิ่มผลตอบแทนการลงทุนสูงสุดสำหรับการติดตั้งใช้งานเชิงพาณิชย์

Commercial Storage System (CSS-OD) — โซลูชั่นแบตเตอรี่ขนาด 102.4 กิโลวัตต์ ที่ออกแบบมาสำหรับโรงงานขนาดเล็กและขนาดกลาง สามารถขยายศักยภาพการทำงานด้วยการกำหนดค่าจัดเก็บพลังงานได้ถึง 1 เมกะวัตต์อาวร์ พร้อมการรับประกันผลิตภัณฑ์ 10 ปี และการรับประกันอายุการใช้งาน 6,000 รอบ

โซลูชั่นสำหรับที่อยู่อาศัยและนวัตกรรมซอฟต์แวร์

สำหรับการใช้งานในที่อยู่อาศัย SolarEdge ได้สาธิต SolarEdge GO แอปพลิเคชันมือถือแบบครบวงจรที่ทำให้การติดตั้ง การจัดการ และการดำเนินการด้านบริการเป็นไปอย่างราบรื่น ขณะที่พันธมิตรของบริษัทได้จัดแสดงระบบนิเวศ SolarEdge Home รวมถึง Home Hub Inverters โฮมฮับอินเวอร์เตอร์, Home batteries โฮมแบตเตอรี่, Backup interfaces แบ็กอัพอินเตอร์เฟซ และ S650B Power Optimizers อุปกรณ์เพิ่มประสิทธิภาพในการผลิตพลังงานไฟฟ้ารุ่น S650B

ระบบป้องกันความปลอดภัยไซเบอร์ระดับชั้นนำ

SolarEdge ได้เน้นย้ำถึงระบบป้องกันความปลอดภัยทางไซเบอร์แบบ 4 ชั้น เพื่อตอบสนองกับความกังวลที่เพิ่มมากขึ้นเกี่ยวกับภัยไซเบอร์และอาจจะเกิดขึ้นกับโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญด้านพลังงาน ทั้งนี้ เมื่อการติดตั้งโซลาร์เซลล์ได้กลายเป็นสินทรัพย์เชิงกลยุทธ์ ระบบรักษาความปลอดภัยที่แข็งแกร่งของ SolarEdge จึงช่วยรับมือกับความกังวลเรื่องภัยไซเบอร์ที่กำลังเป็นประเด็นที่เกิดขึ้นทั้งในยุโรปและสหรัฐอเมริกา

เทคโนโลยีความปลอดภัย

SolarEdge ได้สาธิตเทคโนโลยีชิป ASICS ซึ่งเป็นองค์ประกอบสำคัญของ Power Optimizers ที่ได้มีการจัดจำหน่ายไปทั่วโลกแล้วกว่า 132 ล้านเครื่อง บริษัทยังได้จัดแสดงฟังก์ชันความปลอดภัย Sense Connect ใน S-series Power Optimizers ซึ่งสามารถป้องกันการเกิดประกายไฟฟ้าที่จุดเชื่อมต่อ ด้วยการใช้เทคโนโลยี SolarEdge Sense Connect ในการตรวจจับและตอบสนองต่อความร้อนที่สูงจนเกินไปบริเวณจุดเชื่อมต่อ ด้วยการปิดระบบก่อนที่ปัญหาจะเกิดขึ้น

เราเป็นรายแรกของวงการที่มีระบบป้องกันความปลอดภัยเชิงรุก” อัลเตอร์เน้นย้ำ “เราไม่ได้แค่ส่งมอบอุปกรณ์ แต่เรากำลังส่งมอบโซลูชั่นความปลอดภัยที่ครอบคลุมและผสานเข้ากับเทคโนโลยี”

การลงทุนเชิงกลยุทธ์ในประเทศไทย

SolarEdge ได้จัดตั้งบริษัท SolarEdge Thailand เพื่อทำธุรกิจในประเทศไทย ขยายกำลังบุคลากร เพื่อสนับสนุนกลยุทธ์การเติบโตในไทย และจะเปิดคลังสินค้าในกรุงเทพฯ ช่วงไตรมาสที่ 4 ของปี 2568 เพื่อลดระยะเวลาในการส่งมอบสินค้าและยกระดับการเข้าถึงตลาด

เราได้ลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานอย่างมีนัยสำคัญ เพื่อให้ลูกค้าได้ประโยชน์ทางเศรษฐกิจมากขึ้น ทั้งในเรื่องผลิตภัณฑ์และการกำหนดราคา” อัลเตอร์ กล่าว

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *