PUEAN เผยแผนธุรกิจปี 68 เตรียมเปิดบริษัทย่อย เพิ่มสาขาให้บริการ ปักธงดันพอร์ตสินเชื่อ 1,000 ล้านบาท

เพื่อนแท้ แคปปิตอล PUEAN” เผยทิศทางธุรกิจปี 2568 มุ่งเน้นสร้างการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ตั้งเป้าพอร์ตสินเชื่อแตะที่ระดับ 1,000 ล้านบาท เตรียมเปิดบริษัทย่อยในจังหวัดสมุทรสาคร และ สาขาให้บริการเพิ่ในพื้นที่เขตบางแค พร้อมบริหารคุณภาพสินเชื่อลดระดับอัตราการผิดนัดชำระของสินเชื่อ(NPL) ต่ำกว่าระบบธนาคารพาณิชย์ ด้านผลการดำเนินงานปี 2567 รายได้รวม 154.53 ล้านบาท กำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 126.36%

นายวุฒิศิลป์ จรัสบวรพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เพื่อนแท้ แคปปิตอล จำกัด หรือPUEAN ผู้นำตลาดการให้บริการสินเชื่อรายย่อยระดับจังหวัดในประเทศไทย หรือ พิโกไฟแนนซ์พลัส ในนาม “เพื่อนแท้ เงินด่วน” เปิดเผยถึง ทิศทางธุรกิจปี 2568 บริษัทมุ่งเน้นสร้างการเติบโตของรายได้อย่างต่อเนื่องผ่านการให้บริการสินเชื่อรายย่อยระดับจังหวัด รวมถึงธุรกิจนายหน้าธุรกิจประกันวินาศภัย โดยตั้งเป้าหมายการขยายพอร์ตสินเชื่อให้อยู่ในระดับ 1,000 ล้านบาท

ทั้งนี้ บริษัทมีแผนการเปิดบริษัทย่อยเพิ่มเติมจำนวน 1 แห่ง ได้แก่ บริษัท เพื่อนแท้ เงินด่วน (สมุทรสาคร) จำกัด เพื่อให้บริการสินเชื่อรายย่อยระดับจังหวัดในพื้นที่จังหวัดสมุทรสาคร ซึ่งอยู่ระหว่างการขอใบอนุญาตระหว่างดำเนินการเปิดให้บริการสาขาดังกล่าว คาดว่าจะสามารถให้บริการได้ภายในช่วงไตรมาส 2/2568 อีกทั้งมีแผนเปิดให้บริการสาขาย่อยบางแค จำนวน 1 แห่ง ภายใต้การดำเนินงานของบริษัท เพื่อนแท้ เงินด่วน (กรุงเทพ) จำกัด ส่งผลให้บริษัทมีจำนวนบริษัทย่อยจำนวน 16 แห่ง และ สาขาการให้บริการเพิ่มขึ้นจำนวน 25 สาขา ครอบคลุมพื้นที่ 16 จังหวัดทั่วประเทศ อาทิ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก กรุงเทพมหานคร และ พื้นที่จังหวัดปริมณฑล

บริษัทเป็นผู้ดำเนินธุรกิจที่ไม่ใช่สถาบันทางการเงิน ดำเนินธุรกิจด้วยการถือหุ้นในบริษัทอื่น (Holding Company) ในนามเพื่อนแท้ เงินด่วนโดยแบ่งการให้บริการเป็น 2 ประเภท ได้แก่ บริการสินเชื่อพิโกไฟแนนซ์พลัส หรือ สินเชื่อรายย่อยระดับจังหวัด ภายใต้การกำกับดูแลของสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง กระทรวงการคลัง และ ธุรกิจนายหน้าธุรกิจประกันวินาศภัย ซึ่งได้รับใบอนุญาตเป็นนายหน้าประกันวินาศภัยจาก คณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) โดยมีหลักทรัพย์ค้ำประกันเป็นโฉนดที่ดิน ซึ่งถือเป็นสินทรัพย์ที่มีความมั่นคง และ มีมูลค่าเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งปัจจุบันบริษัทมีสัดส่วนของสินทรัพย์ดังกล่าวจำนวน 99.61%

ด้านสัดส่วนลูกค้าที่ใช้บริการสินเชื่อสามารถแบ่งได้เป็น 2 กลุ่มหลัก ได้แก่กลุ่มลูกค้าที่มีรายได้ประจำ อาทิ ข้าราชการ, พนักงานบริษัท จำนวน 27.41% และ กลุ่มลูกค้าที่ไม่มีเอกสารรับรองรายได้ โดยส่วนใหญ่จะเป็นเจ้าของธุรกิจ หรือ ประกอบอาชีพอิสระ เช่น ค้าขาย, เกษตรกร และ ลูกจ้าง ซึ่งถือเป็นกลุ่มลูกค้าหลักของบริษัท จำนวน 72.59%

บริษัทมีความมุ่งมั่นที่จะช่วยเสริมสภาพคล่องให้กับประชาชน ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจที่มีความผันผวน โดยแผนการขยายสาขาทั้งหมดของบริษัทเพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้สะดวกและทั่วถึง ขณะเดียวกันบริษัทมุ่งเน้นการบริหารคุณภาพสินเชื่อให้มีประสิทธิภาพ โดยปัจจุบันบริษัทสามารถรักษาระดับอัตราการผิดนัดชำระของสินเชื่อ (NPL) ไว้ที่ 3.61% ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของสินเชื่อที่อยู่อาศัยในระบบธนาคารพาณิชย์ที่อยู่ที่ระดับ 3.88% ซึ่งแผนการดำเนินงานทั้งหมดเชื่อว่าจะสามารถสร้างผลการดำเนินงานให้เติบโตตามเป้าหมายที่วางไว้ได้อย่างแน่นอน นายวุฒิศิลป์กล่าว

ขณะที่ บริษัทมีผลการดำเนินงานปี 2567 ที่เติบโตต่อเนื่อง โดยมีรายได้รวม 154.53 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่มีรายได้รวม 108.73ล้านบาท จำนวน 45.80 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 42.12% และมีกำไรสุทธิ 25.76 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 11.38 ล้านบาท จำนวน 14.38 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 126.37%