IND คว้างานวิศวกรที่ปรึกษาส่วนต่อขยาย M7 มูลค่า 25 ลบ. ดัน Backlog โตติดปีก แตะ 2,507.47 ลบ. มั่นใจปี 68 รายได้โตไม่ต่ำกว่า 10-15%

บมจ.อินเด็กซ์อินเตอร์เนชั่นแนล กรุ๊ป (IND) คว้างานวิศวกรที่ปรึกษาควบคุมงานก่อสร้าง  โครงการพัฒนาโครงข่ายทางหลวงเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก ทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองหมายเลข 7 (M7) ส่วนต่อขยายเชื่อมต่อสนามบินนานาชาติอู่ตะเภา กับกรมทางหลวง  มูลค่า 25,169,400 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) หนุน Backlog เพิ่มขึ้นเป็น 2,507.47  ล้านบาท (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) ฟากผู้บริหาร “ดร.พรลภัส ณ ลำพูน” ประกาศเดินหน้าตุนโปรเจคใหม่ทั้งจากโครงการภาครัฐ-รัฐวิสาหกิจ และเอกชนต่อเนื่อง หนุนรายได้ปีนี้เติบโตไม่ต่ำกว่า 10-15%

ดร.พรลภัส ณ ลำพูน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อินเด็กซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) (IND) ผู้ให้บริการงานด้านวิศวกรรมและสถาปัตยกรรมครอบคลุมงานออกแบบพร้อมก่อสร้าง, งานบริหารโครงการขนาดใหญ่และควบคุมงานก่อสร้างของภาครัฐ รวมถึงงานด้านวิศวกรรมที่ปรึกษาต่างๆ เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้ลงนามสัญญาจ้างงานวิศวกรที่ปรึกษาควบคุมงานก่อสร้าง  โครงการพัฒนาโครงข่ายทางหลวงเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองหมายเลข 7 (M7) ส่วนต่อขยายเชื่อมต่อสนามบินนานาชาติอู่ตะเภา กับกรมทางหลวงคิดเป็นมูลค่าทั้งสิ้น 25,169,400 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) ระยะเวลาดำเนินการ 38 เดือน

ทั้งนี้ ภายหลังจากได้รับงานในครั้งนี้จะส่งผลทำให้งานในมือรอรับรู้รายได้ (Backlog) เพิ่มขึ้นเป็น 2,507.47 ล้านบาท (ณ สิ้นสุดวันที่  5 สิงหาคม  2568)  โดยบริษัทฯ พร้อมเข้าร่วมประมูลโครงการใหม่ๆ จากภาครัฐ-รัฐวิสาหกิจ และเอกชนอย่างต่อเนื่อง เพื่อขยายโอกาสการเติบโตทางธุรกิจ และเพิ่มศักยภาพรายได้และกำไรให้เติบโตตามเป้าหมายที่ได้วางไว้ ซึ่งเชื่อว่าภาพรวมอุตสาหกรรมรับเหมาก่อสร้างในปี 2568 จะมีแนวโน้มฟื้นตัวที่ดีขึ้น เห็นได้จากยังมีงานโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ออกมาอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งโครงการสาธารณูปโภคพื้นฐานอื่นๆ ที่ยังมีแนวโน้มขยายตัวจึงเป็นสัญญาณบวกที่ส่งผลดีต่อธุรกิจของบริษัทฯ ซึ่งปีนี้ได้ตั้งเป้าการเติบโตของรายได้ไว้ไม่ต่ำกว่า 10-15%

“แม้สถานการณ์การรอบด้านต่างๆ ทั้งสงครามจากต่างประเทศ ความไม่แน่นอนทางการเมือง รวมถึงความสัมพันธ์ที่ตึงเครียดกับประเทศเพื่อนบ้าน และภาวะเศรษฐกิจที่ซบเซาที่เป็นตัวแปรสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อภาพรวม  แต่ในส่วนของ IND ยังคงดำเนินธุรกิจตามแผนและยังมีงานใหม่ๆ เข้ามาอย่างต่อเนื่องจากหน่วยงานภาครัฐและเอกชนที่ทยอยออกมา รวมทั้งโครงการสาธารณูปโภคพื้นฐานอื่นๆ ที่ยังมีแนวโน้มขยายตัว  ซึ่งช่วยหนุนให้ผลการดำเนินงานเติบโตอย่างมีศักยภาพเพิ่มมากขึ้น  ที่ผ่านมาบริษัทฯ ตอกย้ำอยู่เสมอว่าเรามีความพร้อมในทุก ๆ ด้านที่จะรับงานทั้งจากภาครัฐและเอกชน เพื่อต่อยอดธุรกิจที่ดำเนินการอยู่เติบโตอย่างแข็งแกร่ง  ที่สำคัญเพื่อสร้างผลตอบให้กับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องให้ได้มากที่สุด ” ดร.พรลภัส กล่าวในที่สุด

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *