BLC โชว์ผลงาน 9 เดือน New High ทำกำไรสุทธิ 121.3 ล้านบาท พุ่ง 20.5%

มั่นใจ Q4/67 โตต่อเนื่อง รับปัจจัยบวกจากสังคมสูงวัย-เทรนด์สุขภาพ พร้อมเดินเครื่องบุก ECommerce ขยายตลาดต่างประเทศเต็มสูบ

บมจ. บางกอกแล็ป แอนด์ คอสเมติค หรือ BLCประกาศผลการดำเนินงานงวด 9 เดือนแรกปี 2567 ทำสถิติสูงสุดใหม่กวาดรายได้จากการขายและให้บริการรวม 1,134 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 121.3 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12.2% และ 20.5% ตามลำดับเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ประเมินแนวโน้มไตรมาส 4/2567 ยังเติบโตต่อเนื่อง รับปัจจัยบวกจากสังคมสูงวัย-เทรนด์สุขภาพหนุนโต พร้อมเตรียมลุยตลาด E-Commerce เต็มสูบ มุ่งสร้างการรับรู้ของแบรนด์ วางจำหน่ายผลิตภัณฑ์ใหม่ ขยายช่องทางการจัดจำหน่ายร้านยาชั้นนำทั่วประเทศ พร้อมนำผลิตภัณฑ์ยาเข้าจดทะเบียนในต่างประเทศ เพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน

ภก.สุวิทย์ งามภูพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บางกอกแล็ป แอนด์ คอสเมติค จำกัด (มหาชน)หรือ BLC ผู้ผลิต และจำหน่ายผลิตภัณฑ์ยาแผนปัจจุบัน ประเภทยาสามัญ และยาสามัญใหม่ ผลิตภัณฑ์สมุนไพร ผลิตภัณฑ์ยาสำหรับสัตว์ และผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพครบวงจร ครอบคลุมกลุ่มผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร เครื่องสำอาง และผลิตภัณฑ์อื่นๆ เปิดเผยว่าบริษัทฯ สามารถทำผลประกอบการเติบโตต่อเนื่อง นับตั้งแต่เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ 21 มิถุนายน 2566 สะท้อนความแข็งแกร่งของพื้นฐานธุรกิจ และศักยภาพการเติบโตตามแผนที่วางไว้ โดยในช่วงไตรมาส 3/2567(กรกฎาคม กันยายน) บริษัทฯ มีรายได้จากการขายและการให้บริการ 398.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14.8% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 43.3ล้านบาท เพิ่มขึ้น 17% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า เป็นผลมาจาการเดินหน้ากลยุทธ์สร้างBrand awareness อย่างต่อเนื่อง รวมทั้การออกบูธและประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ทั้งออนไลน์ และออฟไลน์ เพื่อให้เข้าถึงผู้บริโภคอย่างครอบคลุม ส่งให้ผลการดำเนินงานงวด 9 เดือน ปี 2567 (มกราคม กันยายน) มีรายได้จากการขายและการให้บริการรวม1,134 ล้านบาท เติบโต 12.2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า ขณะที่กำไรสุทธิทำได้ 121.3ล้านบาท เติบโต 20.5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า

ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร BLC กล่าวว่า บริษัทฯ ประเมินผลการดำเนินงานในช่วงไตรมาส 4/2567 ยังมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากการเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างเต็มรูปแบบของประเทศไทย ซึ่งจะส่งผลให้ความต้องการใช้ยาที่เกี่ยวข้องกับโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) เพิ่มสูงขึ้น รวมทั้ง เทรนด์สุขภาพที่เน้นการใช้เทคโนโลยีชีวภาพ (Biotech)  ยังช่วยให้การเข้าถึงการรักษาง่ายขึ้น นอกจากนี้ ผู้บริโภคหันมาใส่ใจดูแลสุขภาพทั้งภายในและภายนอกมากขึ้น เห็นได้จากความนิยมในการใช้ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารและเครื่องสำอาง ประกอบกับพฤติกรรมผู้บริโภคที่นิยมซื้อสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์มากขึ้น จึงเตรียมความพร้อมรุกตลาดอีคอมเมิร์ซเต็มสูบ

นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยส่งเสริมการเติบโตจากการนำผลิตภัณฑ์นวัตกรรมสมุนไพรจากพริก เข้าสู่บัญชียาหลักแห่งชาติด้านสมุนไพร ทำให้ใช้สวัสดิการประกันสุขภาพของรัฐบาลเบิกจ่ายได้ ซึ่งจะช่วยเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงยาของผู้ป่วย และสนับสนุนยอดขายให้เติบโตขึ้น รวมทั้ง การทำ Brand awareness ซึ่งเป็นกลยุทธ์สำคัญของบริษัทฯ ในการเดินหน้าสร้างแบรนด์ในพอร์ตโฟลิโอให้แข็งแกร่ง เพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน โดยมุ่งเน้การสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จัก ผ่านการเป็นสปอนเซอร์ให้รายการประกวด,การแข่งขันกีฬา และการใช้ Influencer Marketing เพื่อสร้างการับรู้ของแบรนด์ และเข้าถึงผู้บริโภคมากยิ่งขึ้น อีกทั้งบริษัทฯ มีแผนที่จะนำยาสามัญ และยาสามัญใหม่ เข้าจดทะเบียนในตลาดต่างประเทศมากขึ้น และขยายช่องทางการจัดจำหน่ายครอบคลุมทุกร้านขายยาชั้นนำทั่วประเทศ เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้อย่างครอบคลุม พร้อมทั้งขยายช่องทางการจำหน่ายออนไลน์ ผ่านแพลตฟอร์ม Shopee, TikTok และ Facebook และวางจำหน่ายผลิตภัณฑ์ใหม่ เช่น ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค และผลักดันรายได้เติบโตตามเป้า

BLC มุ่งมั่นพัฒนาผลิตภัณฑ์ยา ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ผลิตภัณฑ์สมุนไพร ผลิตภัณฑ์ยาสำหรับสัตว์ และผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพครบวงจร ที่มีคุณภาพ เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค และสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน ด้วยกลยุทธ์ที่แข็งแกร่ง และการปรับตัวให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของตลาด จะช่วยผลักดันให้ BLC บรรลุเป้าหมายการเติบโตที่วางไว้  และสร้างผลตอบแทนที่ดีให้แก่ผู้ถือหุ้นอย่างยั่งยืนภก.สุวิทย์ กล่าว