ATP30 เผยทิศทางธุรกิจช่วงโค้งสุดท้าย
ปี 2567โตต่อเนื่อง
เตรียมรับรู้รายได้ลูกค้า 3 ราย ชูกลยุทธ์
พัฒนาระบบบริหารจัดการต่อเนื่อง
อัพเกรดเทคโนโลยี ยกระดับการบริการ พร้อมคุมต้นทุน
มั่นใจรายได้รวมปีนี้โตตามเป้า 10% นิวไฮ
ต่อเนื่องเป็นไตรมาสที่ 8
เล็งขยายพอร์ตรถ EV รองรับดีมานด์เพิ่ม
เดินหน้าขยายฐานลูกค้า
นายปิยะ เตชากูล กรรมการผู้จัดการ
บริษัท เอทีพี 30 จำกัด (มหาชน) (ATP30)
ผู้ดำเนินธุรกิจให้บริการรถรับส่งพนักงาน
จากแหล่งที่พักอาศัยไปยังโรงงาน
อุตสาหกรรม สถานประกอบการ รอบเขต
นิคมอุตสาหกรรมภาคตะวันออก
(Eastern Seaboard) และเขตอุตสาหกรรมภาคกลาง
เปิดเผยว่า
ทิศทางธุรกิจช่วงโค้งสุดท้ายปีนี้
มีแนวโน้มเติบโตอยู่ในเกณฑ์ดีต่อเนื่อง
จากจำนวนลูกค้าใหม่ที่ใช้บริการเพิ่มขึ้น 5 ราย
และฐานลูกค้าเดิมที่ขยายสัญญา เพิ่มจำนวนรถให้บริการ
โดยปัจจุบันบริษัทมีฐานลูกค้ารวม 66 ราย คิดเป็นมูลค่าสัญญารวม 1,870ล้านบาท
ทั้งนี้จำนวนลูกค้าที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่องทำให้ปัจจุบัน ATP30
มีรถให้บริการรวม 702 คัน ประกอบด้วย รถบัส 277 คัน
, มินิบัส 51 คัน,
รถตู้ 361 คัน, รถบัส EV 13 คัน โดยมีรถ
ที่จะหมดค่าเสื่อมในปีนี้จำนวน 25
คัน ซึ่งจะส่งผลให้ต้นทุนการดำเนินงานปรับตัวลดลง
ในระยะต่อไป
คาดว่ารายได้รวมของบริษัทปีนี้จะเติบโตไม่ต่ำกว่า
10% ตามเป้าหมาย
และรักษาอัตรากำไรขั้นต้นให้อยู่ในระดับ 20%
อีกทั้งผลประกอบการไตรมาส 4/2567 มีแนวโน้มทำสถิติสูงสุดได้ต่อเนื่อง
“ATP30 เป็นที่ยอมรับของลูกค้าองค์กรชั้นนำเพิ่มขึ้น
อย่างต่อเนื่อง
และถือเป็นหนึ่งในผู้นำตลาดบริการรถรับส่งพนักงาน
จากการเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการ
การพัฒนาศักยภาพบุคลากร
มาตรฐานบริการ ความปลอดภัย ตลอดจนการเทคโนโลยี
นวัตกรรมใหม่ๆ
มาตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ
ขณะเดียวกันยังส่งผลให้ผลประกอบการของ
บริษัทเติบโตอย่างแข็งแกร่งใน
ภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว โดยสามารถทำนิวไฮถึง
7ไตรมาสต่อเนื่อง”นายปิยะ กล่าว
สำหรับแผนการดำเนินงานของบริษัทในช่วงต่อจากนี้
จะยังขยายฐานลูกค้ารายใหม่ และขยายบริการกับลูกค้าเดิมอย่างต่อเนื่อง
รวมทั้งมีแผนยกระดับมาตรฐานการเดินรถ การให้บริการทุกมิติ
รวมทั้งการบริหารจัดการต้นทุนให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
นอกจากนี้บริษัทได้เตรียมความพร้อมในการ
ให้บริการด้วยรถบัสไฟฟ้ามากขึ้น เพื่อรองรับลูกค้าที่ต้องการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก
และลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม โดยดำเนินการเพิ่มสัดส่วนรถบัสไฟฟ้าใหม่
ดำเนินการจัดหาแหล่งพลังงานไฟฟ้าสะอาดโดย
จะเพิ่มการผลิตไฟฟ้าจาก
ระบบโซล่ามาเป็นพลังงานในการเดินรถมากขึ้น
และการนำเทคโนโลยีมาควบคุมระบบ
การบริหารจัดการกระแสไฟฟ้าของตู้ชาร์จ (EV Management Systems)
ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างช่วงทดสอบระบบ
โดยเบื้องต้นสามารถลดปริมาณการใช้ไฟฟ้าสูงสุด
(Peak Demand)
ลงตามเป้าหมายและสามารถเพิ่มสัดส่วนการใช้ไฟฟ้าจากระบบโซล่าได้มากขึ้น