ยิ่งใหญ่ต่อเนื่องปีที่ 6 เซ็นทรัลพัฒนา จัด Thailand’s Pride Celebration 2025  “Pride For All” ชูไทยสู่ Pride Landmark โลก

บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) ผู้นำอสังหาริมทรัพย์ของไทยและผู้บริหารศูนย์การค้าเซ็นทรัลทั่วประเทศ ย้ำบทบาท The Pioneer of Equality ผู้ริเริ่มงานฉลองเดือนแห่งความภาคภูมิใจ Pride month ต่อเนื่องปีที่ 6 ประกาศความยิ่งใหญ่เปิดพื้นที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลทั่วประเทศ เป็นพื้นที่การแสดงออกความเป็นตัวตนอย่างเท่าเทียม ภายในงาน Thailand’s Pride Celebration 2025 “Pride For All” ชูศักยภาพประเทศไทยสู่การเป็นเจ้าภาพ World Pride 2030 เดินหน้าปลุกภาคเศรษฐกิจ-ท่องเที่ยว ไตรมาส 2 และหนุนอุตสาหกรรมบันเทิง Boys Love-Girls Love ของไทยที่มีอิทธิพลระดับโลก

โดยในงานแถลงข่าวได้รับเกียรติจาก ดร. ณัฐกิตติ์ ตั้งพูลสินธนา กรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการตลาด บมจ. เซ็นทรัลพัฒนา พร้อมด้วย คุณวรวิทย์ ตันติประยุกต์ ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาธุรกิจ บจก. สไปร์ซซี่ ดิสก์, คุณตรีรนันท์ ลีฬหาวงศ์ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายประชาสัมพันธ์และพันธมิตร กลุ่มห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล ในเครือเซ็นทรัล รีเทล, คุณภิมุข สิมะโรจน์ เลขานุการผู้ว่าราชการ กรุงเทพมหานคร, คุณสุนันทา หามนตรี ผู้อำนวยการกองประชาสัมพันธ์ในประเทศ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย, คุณนีฟ มารี คอลิเออร์-สมิธ ผู้แทนโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ ประจำประเทศไทย UNDP, คุณเมทินี กิ่งโพยม CEO จาก Muse by Metinee, คุณอรรณว์ ชุมาพร ประธานและผู้ก่อตั้ง บริษัท นฤมิตไพรด์ จำกัด, ภญ.พนัชกร นาคราช ผู้จัดการผลิตภัณฑ์ความงาม บริษัท กัลเดอร์มา (ประเทศไทย) จำกัด

ดร.ณัฐกิตติ์ ตั้งพูลสินธนา กรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการตลาด บมจ.เซ็นทรัลพัฒนา กล่าวว่า “เซ็นทรัลพัฒนา มอง Pride month เป็นมากกว่าความเท่าเทียม แต่เป็นเสรีภาพ (Freedom), สิทธิมนุษยชน (Human Right) และความเท่าเทียมที่ไม่มีขีดจำกัดในเรื่องเพศอีกต่อไป (Equality) ซึ่งเป็น 3 สิ่งพื้นฐานสำคัญที่ทุกคนพึงมี โดยศูนย์การค้าเซ็นทรัลทั่วประเทศพร้อมเป็นพื้นที่ที่เปิดโอกาสให้ทุกคนแสดงตัวตนอย่างอิสระ

ทั้งนี้ Pride month คือเทศกาลสำคัญที่ช่วยขับเคลื่อนการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจ โดยเซ็นทรัลพัฒนา เป็นอันดับ 1 Pride Landmark ที่สร้าง Massive impact ทั่วประเทศได้จริง และขยายพื้นที่จัดงานยิ่งใหญ่ Double size ทุกปี จาก 9 สาขาในปี 2023 สู่ 39 สาขาในปี 2025 และคาดว่าจะมีผู้ร่วมงานทั่วประเทศรวมกว่า 1.3 ล้านคน ขอขอบคุณความร่วมมืออันแข็งแกร่งจากพันธมิตรภาครัฐ-เอกชน ที่สนับสนุนต่อเนื่อง และทำให้ไทยยกระดับความเท่าเทียม ประสบความสำเร็จผ่านกฏหมายสมรสเท่าเทียมเป็นประเทศแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เป็นอันดับที่ 3 ในเอเชียต่อจากไต้หวัน และเนปาล และเป็นอันดับที่ 38 ของโลก”


ทั้งนี้ เศรษฐกิจสายรุ้ง หรือ Rainbow Economy กำลังเติบโตอย่างรวดเร็วและทรงพลัง โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว บันเทิง และไลฟ์สไตล์ ซึ่งได้รับแรงขับเคลื่อนจากกลุ่ม LGBTQIAN+ ทั่วโลกกว่า 400-800 ล้านคน คิดเป็น 5-10% ของประชากรโลก ขณะที่ในไทยมีมากกว่า 6 ล้านคน คาดสร้างเงินสะพัดกว่า 1.5 แสนล้านบาทต่อปี และช่วยเพิ่ม GDP ได้ถึง 0.3% โดยการผ่านกฎหมายสมรสเท่าเทียมยังส่งผลดีต่อการท่องเที่ยวและการลงทุน โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) คาดรายได้จากนักท่องเที่ยว กลุ่ม Rainbow Tourism จะสูงถึง 2,000 ล้านดอลล่าร์สหรัฐต่อปี

สำหรับมูลค่าตลาดท่องเที่ยวทั่วโลกจากกลุ่มนี้ ปี 2025 อยู่ที่ราว 357 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และมีแนวโน้มเติบโตสู่ 604.34 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปี 2032 ขณะเดียวกัน Soft Power อย่างซีรีส์ Girl Love ของไทยก็ได้รับความนิยมระดับโลก มีผู้ชมหลายร้อยล้าน view สร้างเม็ดเงินและอิทธิพลทางวัฒนธรรมมหาศาล โดยหากได้รับการสนับสนุนอย่างจริงจัง คาดจะสร้างรายได้ถึง 2,000 ล้านบาทต่อปี สะท้อนการเติบโตของ Rainbow Entertainment’

เผยมุมมองเชิงลึกระดับโลก ในประเด็นความหลากหลาย

จากข้อมูล* พบว่าทั่วโลกเห็นสัญญาณการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในมุมมองเรื่องความหลากหลายทางเพศ โดยเฉพาะในกลุ่ม Gen Z ที่ระบุตัวเองเป็น LGBTQIAN+ สูงถึง 23% ซึ่งเป็นสัดส่วนมากที่สุดเมื่อเทียบกับทุกเจเนอเรชัน สะท้อนแนวคิดใหม่ที่ให้ความสำคัญกับเสรีภาพไร้กรอบ ขณะที่กลุ่ม Millennials มีสัดส่วน 14% และเป็นแรงผลักดันหลักในช่วงเริ่มต้น Pride Movement ส่วนกลุ่ม Gen X และ Baby Boomers อยู่ที่ 5% และ 3% ตามลำดับ โดยมองว่าเป็นกิจกรรมเฉพาะกลุ่ม ด้านข้อมูลจากสหภาพยุโรป ปี 2023 เผยให้เห็นการเปิดกว้างในระดับนโยบาย โดยอัตราการสนับสนุนการสมรสเท่าเทียมอยู่ในระดับสูง เช่น สวีเดน และเนเธอร์แลนด์ที่มีถึง 94% เดนมาร์ก 93% และฝรั่งเศส 79% สะท้อนการยอมรับความหลากหลายทางเพศในสังคมกระแสหลักที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง

ศักยภาพประเทศไทย LGBTQIAN+ Hub แห่งเอเชีย พร้อมชิงเจ้าภาพ World Pride 2030

“ประเทศไทยได้รับการยอมรับเป็นอันดับ 1 ของโลกด้านศัลยกรรมแปลงเพศ ซึ่งคาดว่าจะผลักดันมูลค่า Medical Tourism สูงถึง 16,000 ล้านบาทในปี 2568* ขณะเดียวกัน ไทยยังเป็นพื้นที่ปลอดภัยทางใจของชุมชน LGBTQIAN+ จากทั่วโลก โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจากจีน เกาหลี และตะวันออกกลาง ซึ่งมองไทยเป็นการเฉลิมฉลองทางวัฒนธรรม (Cultural Celebration) พร้อมด้วย Soft Power จากซีรีส์ Girl Love ของไทยที่ทรงอิทธิพลระดับโลก และ Drag Culture ทำให้ไทยมีศักยภาพในการเป็นเจ้าภาพ World Pride 2030 อย่างเต็มภาคภูมิ” ดร.ณัฐกิตติ์ กล่าวทิ้งท้าย

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *