‘เวฟ บีซีจี’ สร้างปรากฏการณ์ครั้งแรกงาน ‘ฟุตบอลประเพณีธรรมศาสตร์-จุฬาฯ’ ครั้งที่ 75 ที่มีความเป็นกลางทางคาร์บอน เพื่อร่วมลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้สังคม

นายกรกช สงวนปิยะพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เวฟ บีซีจี จำกัด (WAVE BCG) ผู้ให้บริการ Climate Solution ครบวงจร ในเครือบริษัท เวฟ เอกซ์โพเนนเชียล จำกัด (มหาชน) หรือ (WAVE) เปิดเผยว่า แผนธุรกิจในปี 2568 บริษัทฯ เดินหน้ารุกขยายการให้บริการการซื้อขายคาร์บอนเครดิต (Carbon Credit) และใบรับรองพลังงานหมุนเวียน (Renewable Energy Certificate: REC) โดยมีความมุ่งมั่นที่จะให้บริการที่มีคุณภาพครบวงจรและส่งเสริมองค์กรและภาคธุรกิจต่างๆ บรรลุเป้าหมายด้านการความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) และการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Emissions) เพื่อช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม สร้างความยั่งยืนให้กับธุรกิจและสังคม และช่วยเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันในเวทีการค้าในระดับโลก

ทั้งนี้ บริษัทฯ ตระหนักถึงปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ซึ่งส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ล่าสุดจึงได้เข้าร่วมสนับสนุนการจัดกิจกรรม “ฟุตบอลประเพณีธรรมศาสตร์-จุฬาฯ” ครั้งที่ 75 ณ สนามศุภชลาศัย กรีฑาสถานแห่งชาติ ในฐานะที่ปรึกษาและผู้สนับสนุนในการทำให้งานดังกล่าวได้รับการรับรองให้เป็น “Carbon Neutral Event” หรืออีเวนต์ที่มีความเป็นกลางทางคาร์บอนซึ่งเป็นครั้งแรกของการจัดกิจกรรมฟุตบอลประเพณีฯ โดยบริษัทฯ ได้ร่วมมือกับทุกภาคส่วน ทั้งมหาวิทยาลัย นิสิต นักศึกษา และผู้ที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันวางแผนการใช้ทรัพยากรในงานอย่างมีประสิทธิภาพ โดยจะมีการประเมินคาร์บอนฟุตพริ้นท์จากการจัดงาน ร่วมจัดการขยะ และทำการชดเชยคาร์บอนเครดิต ตลอดจนขึ้นทะเบียน Carbon Neutral Event กับทางองค์การบริการจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) เพื่อให้ได้รับรองว่าเป็นงานที่มีความเป็นกลางทางคาร์บอน เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการรับผิดชอบต่อการปล่อยก๊าซเรือนกระจก นำไปสู่การลดก๊าซเรือนกระจก ซึ่งเป็นสาเหตุของภาวะโลกร้อน (Global Warming)  ในปัจจุบัน

“ในฐานะที่เวฟ บีซีจี ผู้ให้บริการ Climate Solution ครบวงจรเราพร้อมเป็นผู้สนับสนุนคาร์บอนเครดิตเพื่อให้การจัดงาน “ฟุตบอลประเพณีธรรมศาสตร์-จุฬาฯ” ครั้งที่ 75  เป็นอีเวนต์ที่เป็นกลางทางคาร์บอนอย่างสมบูรณ์ ซึ่งจะเป็นแรงบันดาลใจและเป็นแบบอย่างให้สังคมหันมาให้ความสำคัญกับการจัดอีเวนต์ที่ช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสร้างความยั่งยืน โดยเราพร้อมที่จะเป็นส่วนหนึ่งร่วมขับเคลื่อนประเทศไทยบรรลุเป้าหมายเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ในปี ค.ศ.2050 และปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ภายในปี ค.ศ.2065” นายกรกช กล่าว

ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เวฟ บีซีจี จำกัด กล่าวว่า ธุรกิจของบริษัทฯ ในปัจจุบันมีบริการ 3 ด้าน ได้แก่ 1)การให้คำปรึกษาด้านการจัดการก๊าซเรือนกระจกแบบครบวงจร (Climate Advisory) ตั้งแต่การประเมินคาร์บอนฟุตพริ้นท์ และการวิเคราะห์การดำเนินงาน (Gap Analysis) ตลอดจนการวางกลยุทธ์การลดก๊าซเรือนกระจก (Decarbonization Roadmap) 2) การให้บริการเป็นตัวกลางผู้ซื้อและผู้ขาย Carbon Credits และใบรับรองพลังงานหมุนเวียน (RECs) และ3) จัดหาและพัฒนาโครงการ Climate Project สนับสนุนการพัฒนาและบริหารจัดการโครงการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (Climate Project) ในหลากหลายรูปแบบ   โดยมุ่งเน้นองค์กรที่ต้องการขับเคลื่อนธุรกิจสู่ความยั่งยืนเสริมสร้างความแข็งแกร่งในเวทีการค้าสากล หลังจากหลายประเทศทั่วโลกได้เริ่มออกกฎหมายและข้อบังคับที่เกี่ยวข้องกับการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ซึ่งจะส่งผลให้ธุรกิจต้องปรับตัวและปฏิบัติตามมากขึ้นในอนาคต

ทั้งนี้ ปรากฏการณ์ที่อุณหภูมิเฉลี่ยของโลกสูงขึ้น ส่งผลกระทบต่อสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม ภัยธรรมชาติที่รุนแรงและบ่อยขึ้น ระดับน้ำทะเลที่เพิ่มสูงขึ้น การจัดอีเวนต์ที่เป็นกลางทางคาร์บอนเป็นอีกหนึ่งแนวทางสู่ความยั่งยืน ซึ่งจะเป็นโมเดลสำหรับภาคธุรกิจที่ต้องการลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ ผ่านจัดกิจกรรมภายใต้แนวคิด อีเวนต์ที่เป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutral Event) ด้วยการใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพซึ่งสามารถดำเนินการได้หลากหลาย เช่น  การใช้หลอดไฟ LED และการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ทำจากวัสดุรีไซเคิล และการจัดการขยะอย่างถูกวิธี ตลอดจนการส่งเสริมให้ผู้เข้าร่วมงานเดินทางด้วยรถยนต์สาธารณะ หรือการใช้รถยนต์ไฟฟ้า เป็นต้น ซึ่งคาดการณ์ว่า Carbon Neutral Event จะได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในอนาคต