- ไทยเป็นศูนย์กลางการวิจัยและพัฒนา (R&D) ที่สำคัญของมาห์เล ด้วยความพร้อมทั้งบุคลากรที่มีทักษะสูง ประวัติความเป็นมาอันยาวนานในอุตสาหกรรมยานยนต์และทำเลที่ตั้งเชิงยุทธศาสตร์
- พื้นที่สำหรับการทดสอบจะมีขนาดใหญ่ขึ้นถึง 8 เท่าเมื่อเทียบกับศูนย์วิจัยและพัฒนาที่เปิดตัวเมื่อปี 2565 ส่วนพื้นที่สำนักงานจะเพิ่มขึ้น 4 เท่าภายในปี 2569
- ปัจจุบัน ศูนย์วิศวกรรมมาห์เลประจำเอเชียทำหน้าที่เป็นศูนย์พัฒนาวิศวกรรมประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก โดยเน้นที่กลุ่มธุรกิจระบบกรองและอุปกรณ์เครื่องยนต์
- มีแผนปรับเปลี่ยนการดำเนินงาน จากผลิตภัณฑ์เครื่องยนต์สันดาปภายใน (ICE) ให้ครอบคลุมยานยนต์ไฟฟ้าหลังปี 2568
มาห์เล (MAHLE) ผู้ผลิตชิ้นส่วนรถยนต์และพาร์ทเนอร์ชั้นนำด้านการวิจัยและพัฒนาจากเมืองชตุทท์การ์ท ประเทศเยอรมนี เดินหน้าขยายศูนย์วิจัยและพัฒนา (R&D) ในจังหวัดสมุทรปราการแผนขยายศูนย์วิจัยและพัฒนาในไทยครั้งนี้ตอกย้ำถึงบทบาทสำคัญของประเทศไทยในภาคยานยนต์ของภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ศูนย์วิจัยและพัฒนาแห่งนี้เริ่มเปิดดำเนินการเมื่อปี 2565
โดยมีพนักงาน 15 คน ในพื้นที่สำนักงาน 300 ตารางเมตร และพื้นที่ทดสอบ 500 ตารางเมตรมาห์เลมีแผนเพิ่มพื้นที่ทดสอบเป็น 4,000 ตารางเมตร และเพิ่มพื้นที่สำนักงานเป็น 1,200ตารางเมตรภายในปี 2569 พร้อมกันนี้ยังมีแผนขยายขอบเขตงานสำหรับพนักงาน 40 คน จากผลิตภัณฑ์เครื่องยนต์สันดาปภายใน (ICE) เช่น ระบบกรองและอุปกรณ์เครื่องยนต์ไปสู่โซลูชันที่ครอบคลุมนอกเหนือจากเครื่องยนต์สันดาปหลังจากปี 2568 การวางแผนกระจายการลงทุนและธุรกิจไปยังภาคส่วนยานยนต์ไฟฟ้านั้นสอดคล้องกับเทรนด์โลกในการทำให้การขนส่งมีประสิทธิภาพ เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และสะดวกสบายมากขึ้น
ซึ่ง มร.ราล์ฟ เคมเลน (Ralf Kiemlen) หัวหน้าฝ่ายวิจัยและพัฒนาของศูนย์วิศวกรรมมาห์เลประจำเอเชีย (MAHLE Engineering Center Asia) กล่าวว่า “การขยายธุรกิจและการปรับเปลี่ยนจุดโฟกัสครั้งนี้สะท้อนให้เห็นความมุ่งมั่นของมาห์เลในการเร่งผลักดันกิจกรรมการวิจัยและพัฒนาในประเทศไทย ด้วยศักยภาพของบุคลากรที่มีทักษะและทุ่มเทของไทย” ศูนย์วิศวกรรมเอเชียซึ่งตั้งอยู่ภายในศูนย์วิจัยและพัฒนาแห่งนี้ปัจจุบันมีพนักงาน 40 คน โดยมีศักยภาพในด้านวิศวกรรมการพัฒนา ระบบออกแบบด้วยคอมพิวเตอร์ (CAD) และมีห้องปฏิบัติการทดสอบที่ทันสมัย ให้บริการครอบคลุมทั่วภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก รวมถึงญี่ปุ่น จีน และเกาหลี
ศูนย์แห่งนี้จะขยายขีดความสามารถให้ครอบคลุมชุดระบายความร้อนน้ำมัน ชุดระบายความร้อนอะลูมิเนียม และชิ้นส่วนพลาสติกสำหรับระบบจัดการความร้อน นอกจากนี้ มาห์เลยังมีแผนให้บริการพัฒนาชิ้นส่วนที่ผลิตจากพลาสติกบางส่วนและชิ้นส่วนอะลูมิเนียมแบบหล่อฉีดสำหรับระบบไฟฟ้าและเมคคาทรอนิกส์ด้วย การขยายขอบเขตการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่นี้สอดคล้องกับความพยายามของมาห์เล ในการเพิ่มความหลากหลายของผลิตภัณฑ์และตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้นสำหรับระบบจัดการความร้อนขั้นสูงและโซลูชันไฟฟ้าในอุตสาหกรรมยานยนต์ “เราเชื่อมั่นในศักยภาพของประเทศไทยในการเป็นศูนย์กลางด้านการวิจัยและพัฒนาสำหรับแบรนด์ระดับโลกของเรา”
มร.ราล์ฟ เคมเลน หัวหน้าฝ่ายวิจัยและพัฒนาของศูนย์วิศวกรรมมาห์เลประจำเอเชีย กล่าว “ประเทศไทยมีประวัติศาสตร์ที่ยาวนานในอุตสาหกรรมยานยนต์ ทั้งยังมีวิศวกรที่มีความเชี่ยวชาญและมีทำเลที่ตั้งเชิงยุทธศาสตร์ทำให้เหมาะสมอย่างยิ่งกับการเป็นฐานผลิตชิ้นส่วนยานยนต์เพื่อจัดส่งไปทั่วภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก”
มร.ยาสุฮิโระ คิโนชิตะ รองประธานกลุ่มธุรกิจระบบกรองและอุปกรณ์เครื่องยนต์ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ได้เน้นย้ำความสำคัญเชิงยุทธศาสตร์ของความเคลื่อนไหวครั้งนี้ว่า “การเปิดศูนย์วิศวกรรมเอเชียแห่งนี้นับเป็นก้าวสำคัญที่สอดรับกับกลยุทธ์ MAHLE 2030+ ของเรา ซึ่งมุ่งเน้นใน 3 ด้านหลักด้วยกัน ได้แก่ ระบบไฟฟ้า การจัดการความร้อน และชิ้นส่วนสำหรับเครื่องยนต์สันดาปที่มีประสิทธิภาพและยั่งยืน ความก้าวหน้าครั้งนี้แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของเราในการผลักดันนวัตกรรมใหม่ ๆและกำหนดทิศทางของการเดินทางขนส่งในอนาคต”
ดร.พรเทพ พรประภา ประธานกลุ่มบริษัทสยามกลการ ได้เยี่ยมชมศูนย์ฯ ในโอกาสเข้าร่วมพิธีเปิดการก่อสร้างเฟสถัดไปและได้กล่าวย้ำถึงผลพวงที่จะเกิดขึ้นกับอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยในวงกว้างว่านี่เป็นก้าวสำคัญของอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย เพราะเรากำลังก้าวไปไกลกว่าการเป็นแค่ฐานการผลิตวันนี้ เราเปิดโอกาสให้วิศวกรไทยได้มีส่วนร่วมอย่างลึกซึ้งในกระบวนการออกแบบศูนย์วิศวกรรมแห่งนี้จะทำหน้าที่เป็นโชว์รูมที่จะสร้างความประทับใจให้กับลูกค้าของเราในอุตสาหกรรมยานยนต์
ซึ่งจะแสดงให้เห็นกระบวนการทั้งหมดตั้งแต่การวิจัยและพัฒนา ไปจนถึงการผลิตนอกจากศูนย์วิศวกรรมเอเชียแล้ว มาห์เลยังมีฐานการผลิตในประเทศไทยอีก 4 แห่งมีพนักงานรวมประมาณ 1,500 คน โรงงานเหล่านี้ผลิตสินค้าหลากหลายประเภท
จากซ้ายไปขวา: มร. นาโอกิ อิชิฮาระ (Naoki Ishihara) มร. จาค็อบ รัมเลอร์ (Jakob Ruemmler) มร. ราล์ฟ เคมเลน
และมร. ยาสุฮิโระ คิโนชิตะ (Yasuhiro Kinoshita) ร่วมฉลองการขยายศูนย์วิศวกรรมมาห์เลประจำเอเชียอย่างเป็นทาง
การนับเป็นก้าวสำคัญในการยกระดับศักยภาพด้านการวิจัยและพัฒนาในไทยทั้งระบบเครื่องยนต์และส่วนประกอบ ระบบกรองและอุปกรณ์เครื่องยนต์ ระบบจัดการความร้อนอิเล็กทรอนิกส์และเมคคาทรอนิกส์