ประเทศไทยเดินหน้าสานต่อยุทธศาสตร์ “Safety Thailand” อย่างต่อเนื่อง โดยรวบรวมผู้เชี่ยวชาญระดับโลก ผู้นำในอุตสาหกรรม และเทคโนโลยีล้ำสมัย เพื่อยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยของแรงงานทั่วประเทศ ความพยายามนี้มีเป้าหมายเพื่อลดอุบัติเหตุในสถานที่ทำงานอย่างมีนัยสำคัญ ผ่านนวัตกรรมในอุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล (PPE) และความร่วมมือระหว่างประเทศ
CIOSH Thailand 2025 งานแสดงสินค้า PPE ความปลอดภัย อาชีวอนามัย การป้องกันอัคคีภัย และเทคโนโลยีการกู้ภัยฉุกเฉินที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จะกลับมาจัดขึ้นอีกครั้งระหว่างวันที่ 4–6 มิถุนายน 2568 ณ ไบเทค กรุงเทพฯ โดยบริษัทชั้นนำกว่า 200 แห่งจะนำเสนอผลิตภัณฑ์และโซลูชั่นด้านความปลอดภัย และอุปกรณ์ป้องกันกว่า 1,000 รายการ
นายเกอร์นอท ริงลิ่ง กรรมการผู้จัดการ เมสเซ่ ดุสเซลดอร์ฟ เอเชีย จำกัด เปิดเผยว่า ท่ามกลางความตื่นตัวด้านความปลอดภัยในสถานที่ทำงานที่เพิ่มขึ้น การมีอุปกรณ์ป้องกันอันตรายส่วนบุคคล (PPE) ที่ได้มาตรฐานและทันสมัย จึงมีความสำคัญสูงสุดในทุกอุตสาหกรรม โดยทำหน้าที่เป็นด่านแรกในการป้องกันภัยในการทำงานโดยเฉพาะในอุตสาหกรรมที่สภาพแวดล้อมในการทำงานมีความเสี่ยงสูง ดังนั้น งาน CIOSH Thailand 2025 จึงกลับมาจัดอีกครั้งเป็นปีที่ 2 ในฐานะเวทีสำคัญของภูมิภาค เพื่อนำเสนอแพลตฟอร์มการจัดหาและความรู้ที่ครอบคลุม ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายเชิงกลยุทธ์ของประเทศไทยภายใต้แผนงาน “Safety Thailand” ของกระทรวงแรงงาน ซึ่งมีเป้าหมายที่จะลดอุบัติเหตุร้ายแรงในสถานที่ทำงานให้เหลือไม่เกิน 1 ต่อ 1,000 คนงาน และลดการเสียชีวิตให้เหลือน้อยกว่า 3 ต่อ 100,000 คนภายในปี 2573
“ ในฐานะผู้นำระดับโลกด้านการจัดแสดงสินค้าระดับมืออาชีพเฉพาะทางในด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และความปลอดภัยในสถานที่ทำงานมานานกว่า 30 ปี โดยมีงาน A+A ที่จัดขึ้นที่เมืองดุสเซลดอร์ฟ ประเทศเยอรมนี เรามองว่าประเทศไทยเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรม PPE ที่สำคัญในภูมิภาค” นายเกอร์นอท กล่าวเสริม
ทั้งนี้ ประเทศไทยยังคงครองส่วนแบ่งการตลาดระดับภูมิภาคที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มากกว่า 20% โดยได้รับแรงหนุนจากการขยายตัวของอุตสาหกรรมหนัก การยกระดับข้อกฎหมายที่เข้มงวด การตระหนักถึงความปลอดภัยของผู้ปฏิบัติงานในภาคอุตสาหกรรม ซึ่งตลาด PPE ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้คาดว่าจะเติบโตอย่างมีนัยสำคัญจนถึงปี 2573 เนื่องจากการเติบโตของความต้องการจากอุตสาหกรรมเคมีและน้ำมันและก๊าซ
นายเกอร์นอท กล่าวเพิ่มเติมว่า ด้วยความร่วมมือกับ Messe Düsseldorf Shanghai และ China Textile Commerce Association (CTCA) ทาง Messe Düsseldorf Asia ภูมิใจที่จะนำเสนอ CIOSH Thailand 2025 ในฐานะแพลตฟอร์มการจัดหาและตัวเชื่อมโยงระดับภูมิภาค ซึ่งเชื่อมโยงการจัดซื้อจัดจ้าง การแลกเปลี่ยนความรู้ และการพัฒนาเครือข่ายในอุตสาหกรรมต่างๆ เช่น การก่อสร้าง พลังงาน โลจิสติกส์ และการดูแลสุขภาพ
ไฮไลท์ของผลิตภัณฑ์ในงาน CIOSH Thailand 2025 ได้แก่ อุปกรณ์ PPE ที่ได้รับการพิสูจน์แล้วและใช้งานได้จริง ซึ่งออกแบบมาเพื่อตอบสนองความต้องการด้านความปลอดภัยของอุตสาหกรรมที่มีความเสี่ยงสูง เช่น การก่อสร้าง โลจิสติกส์ การผลิต และอื่นๆ อีกมากมาย ซึ่งนิทรรศการจะจัดแสดงอุปกรณ์ป้องกันที่ตรงตามมาตรฐานคุณภาพระดับสากล รวมถึงระบบป้องกันการตกจากที่สูง อุปกรณ์ช่วยหายใจ และถุงมืออุตสาหกรรม ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายด้านความปลอดภัยที่ระบุไว้ในแผนงานความปลอดภัยและอาชีวอนามัยแห่งชาติของประเทศไทย 2023–2035 และใช้มาตรฐานระดับโลกจาก A+A ประเทศเยอรมนี
ด้วยที่ตั้งเชิงยุทธศาสตร์ของประเทศไทย งานแสดงสินค้าแห่งนี้จึงไม่เพียงแต่ทำหน้าที่เป็นแพลตฟอร์มการค้าเท่านั้น แต่ยังทำหน้าที่เป็นตัวเชื่อมโยงระหว่างผู้ผลิต ผู้นำเข้า ผู้ใช้งาน และผู้กำหนดนโยบายอีกด้วย ผู้ประกอบการทั้งชาวไทยและต่างประเทศจะมีโอกาสอันล้ำค่าในการเข้าถึงตลาดเกิดใหม่และหลากหลายในภูมิภาค ผู้จัดแสดงจากประเทศต่างๆ เช่น อินเดีย เกาหลีใต้ มาเลเซีย และจีน ยืนยันถึงการเติบโตอย่างรวดเร็วของประเทศไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านการก่อสร้างและโลจิสติกส์ และมองว่างานแสดงสินค้าแห่งนี้เป็นประตูสู่การดึงดูดผู้ซื้อชาวไทยและขยายธุรกิจไปทั่วอาเซียน
ไฮไลท์กิจกรรมในปี 2568:
คลินิกให้คำปรึกษาด้านความปลอดภัย
- นำโดยสมาคมวิศวกรรมความปลอดภัยแห่งประเทศไทย คลินิกจะให้คำแนะนำเฉพาะด้านเกี่ยวกับการเลือก PPE การประเมินความเสี่ยง และการปฏิบัติตามมาตรฐาน ISO, ANSI, BS หรือ EURONORM
การสาธิตการป้องกันการตกจากที่สูงแบบสด
- นำเสนอการสาธิตโดยผู้เชี่ยวชาญโดยใช้เทคโนโลยีความปลอดภัยล่าสุดในสถานการณ์จำลองการทำงานบนที่สูง ซึ่งให้ข้อมูลเชิงลึกโดยตรงเกี่ยวกับประสิทธิภาพและการใช้งาน
การสัมมนาที่เน้นอุตสาหกรรม
- ครอบคลุมถึงการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลในการจัดการความปลอดภัย กลยุทธ์การจัดหา และการปรับปรุงกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมไทย
การเสวนาในหัวข้อต่างๆ ได้แก่:
– การจัดซื้อจัดจ้างและแหล่งที่มาทางจริยธรรม
– ความท้าทาย แนวปฏิบัติที่ดีที่สุด และอนาคตของความปลอดภัยในสถานที่ทำงาน
– ระบบสัญญาณเตือนไฟไหม้
– การจัดการความปลอดภัยของสารเคมีอันตราย
– การทำงานบนที่สูงและในพื้นที่อับอากาศ
นอกจากนี้ ยังมีการสัมมนาพิเศษเกี่ยวกับ การตลาดดิจิทัลและเทคโนโลยี สำหรับผู้นำธุรกิจและผู้มีอำนาจตัดสินใจในภาคส่วน PPE และความปลอดภัยในปี 2567 งานแสดงสินค้าได้ต้อนรับผู้เข้าร่วมงานกว่า 3,100 คนจากกว่า 60 ภาคส่วนอุตสาหกรรม รวมถึงการบิน น้ำมันและก๊าซ อาหารและเครื่องดื่ม และการก่อสร้าง ซึ่งปีนี้คาดว่าจะมีการเข้าร่วมมากยิ่งขึ้น สะท้อนถึงความตระหนักด้านความปลอดภัยที่สูงขึ้นในภาครัฐและเอกชนของประเทศไทย
“เราเชื่อว่า CIOSH Thailand 2025 จะจุดประกายโมเมนตัมด้านความปลอดภัยในสถานที่ทำงานต่อไป” นาย เกอร์นอท กล่าวสรุป